แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล

เทียบอาวุธ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล ก่อนทำศึกชิงจ่าฝูง

วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน ที่กำลังจะถึงนี้ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีคู่หยุดโลกที่ไม่ว่าจะแฟนบอลทีมไหนก็ห้ามพลาดหากเป็นคอบอลตัวจริง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงของตารางคะแนน จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ทีมรองจ่าฝูง โดยก่อนลงสนามเกมนี้ทั้งสองทีมมีคะแนนห่างกันอยู่เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ดังนั้นผู้ชนะของคู่นี้จะได้เป็นฝ่ายหยิบถ้วยแชมป์ไปครองไว้ก่อนข้างหนึ่งแบบกลายๆ ก่อนศึกใหญ่จะลงสนาม  lnwliverpool จะพาเพื่อนๆไปเทียบอาวุธของทั้งคู่ว่าทีมไหนมีอะไรเป็นทีเด็ดซ่อนเอาไว้กันบ้างกันครับ

ลิเวอร์พูล

ทีมรองจ่าฝูงกำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจสุดขีด ฤดูกาลนี้ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ได้ชื่อมีเกมรุกที่ดุดัน รวดเร็ว แม้จะไม่ใช้ทีมที่ยิงเฉียบคมอะไรนัก แต่พวกเขาจะสร้างสรรค์โอกาศได้มากมาย และคู่แข่งจะไม่สามารถทนพายุเกมบุกที่โหดมกระหน่ำเข้ามาได้พ่ายแพ้ไปในที่สุด หรือหากคู่แข่งพยายามที่จะดิ้นรนตั้งเกมให้ได้ก็จะโดน “เกเก้น เพรสซิ่ง” วิธีเล่นเกมรับอันเลื่องชื่อไล่บีบจนรยเสียบอลกันไปเอง และนี้คืออาวุธของทีม ลิเวอร์พูล ที่ใช้ทำลายล้างคู่แข่งในฤดูกาลนี้

  • ความเร็ว – ผู้เล่นแนวรุกของทัพ หงส์แดง โดยเฉพาะทางปีกกาบซ้าย และขวา ต่างมีฝีเท้าที่จัดจ้านที่สุดในลีก ณ เวลานี้ เมื่อพวกเขามีทั้ง ซาดิโอ มาเน่, หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่จะคอยฉีกกระชากแนวรับให้ขาดกระจุยหากปล่อยพื้นที่ว่างให้โจมตี
  • ครอสบอล – อีกหนึ่งอาวุธเด็ดของ หงส์แดง ในยุคนี้คือจังหวะการครอสบอลของ 2 ฟูลแบ็คตัวเก่ง โดยก่อนลงสนาม เทรนอเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ ทำไปแล้ว 11 แอสซิสต์ และ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทำไปแล้ว 10 แอสซิสต์ เป็นท็อป และรองท็อปแอสซิสต์ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้
  • ลูกเซ็ตพีซ – ฤดูกาลนี้ หงส์แดง มีสถิติได้ประตูจากลูกเตะมุมมากที่สุดในลีก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่อย่างใด การที่ทีมมีผู้เล่นที่ครอสบอลได้แม่นยำ บวกกับนักเตะที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีในกรอบเขโทษทั้ง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, โจเอล มาติป, ฟาบินโญ่, ดิโอโก้ โชต้า เป็นอีกหนึ่งอาวุธที่มองข้ามไม่ได้
  • เคาน์เตอร์เพรสซิ่ง – เป็นอีกหนึ่งอาวุธอันตรายของ ลิเวอร์พูล เมื่อพวกเขาเป็นทีมที่บีบแย่งบอลจากคู่แข่งจากแดนกลางได้เก่งมาก เราจึงมักจะเห็นจังหวะที่ หงส์แดง ได้ใช้ช่องโหว่ขณะที่อีกฝั่งโดนฉกบอลกลางคันแล้วแทงทะลุช่องจังหวะเดียวให้แดนหน้าที่มีความเร็วสูงฉีกแนวรับของคู่แข่งที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเข้าไปทำประตูอยู่บ่อยครั้ง
  • เช็คล้ำหน้า – ถือเป็นไพ่เด็ดฝั่งเกมรับชอง ลิเวอร์พูล ในยุคนี้เลยก็ว่า จังหวะการจัดระเบียบเกมรับ เลี้ยงตัวให้อยู่บนไลน์เดียวกันของแนวรับทั้ง 4 คน เป็นกับดักที่เอาไว้ใช้เล่นงานคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ซึ่งสถิติที่ไม่เคยโกหกก็บอกไว้ว่า ลิเวอร์พูล คือทีมที่เช็คล้ำหน้าได้มากที่สุดในลีก มากกว่าทีมอันดับสองที่ตามมากว่าเท่าตัว แต่เกมนี้ก็อาจจะต้องเสี่ยงวัดใจไม่น้อย เพราะคู่แข่งคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีระเบียบวินัยในการเล่นเพื่อหลุดกับดักล้ำหน้าเช่นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ตำแหน่งจ่าฝูงของศึกพรีเมียร์ลีกการันตีความเก่งกาจของพวกเขาให้เห็นเป็นอย่างดี ในช่วง 5 ปีหลังไม่มีสโมสรไหนในเกาะอังกฤษที่ประสบความสำเร็จมากกว่าทีม เรือใบสีฟ้า อีกแล้ว ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพียบพร้อมไปทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นฝีมือของผู้จัดการทีม, ทีมเวิร์ค, คุณภาพของผู้เล่น และเงินทุนมหาศาล แน่นอนว่าแนวทางการเล่นของ ซิตี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ติกิตาก้า” คู่แข่งที่ต้องเจอกับพวกเขาจะต้องหัวหมุนไปกับการต่อบอลเท้าสู่เท้าอันแม่นยำ และนี้คืออาวุธของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ส่งให้พวกเขาประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้

  • ทีมเวิร์ค – สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงทีมของ เป๊ป คือสโมสรที่ครองบอลบุกเข้าใส่คู่แข่งได้ทุกเกม ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ว่าทีมไหนก็ทำได้ ทั้ง 11 ผู้เล่นจะต้องมีความเข้าขารู้ใจในจังหวะรับส่งบอลกันทั้งหมด ซิตี้ เป็นทีมที่ถูกเซ็ทวางระบบไว้เป็นอย่างดี พวกเขาจึงเป็นทีมที่มีจังหวะการครองบอลเหนือกว่าทีมไหนๆบนเวทีลูกหนัง ณ เวลานี้
  • ทำประตูได้ทุกตำแหน่ง – ฤดูกาลนี้ทัพ เรือใบสีฟ้า มีปัญหาขาดแคลนศูนย์หน้าตัวเป้า จึงมีบ่อยครั้งที่เราได้เห็นพวกเขาใช้แผน false 9 (กองหน้าตัวหลอก) แต่ใครจะคิดว่าวิกฤตครั้งน้กลับกลายมาสร้างจุดแข็งให้กับ ซิตี้ จากสถิติฤดูกาลนี้แม้พวกเขาจะนำเป็นจ่าฝูงใน 7 อันดับแรกของดาวซัลโว ไม่มีรายชื่อผู้เล่นของพวกเขาแม้แต่คนเดียว ทว่าจำนวนประตูที่ทำได้ทั้งหมดเป็นรอง ลิเวอร์พูล เพียงทีมเดียวเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าทัพเรือใบสีฟ้าเป็นทีมที่อันตรายทำประตูได้จากผู้เล่นทุกตำแหน่งของสนาม
  • ความสามารถเฉพาะตัว – นักเตะของซิตี้ ถือเป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีคุณภาพสูงมาก เราจึงได้เห็นจังหวะที่คู่แข่งมักจะเสียท่าในจังหวะดวลกันอยู่บ่อยครั้ง โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล ที่นิยมใช้แผนเข้าประกบเร็วอาจจะเสียท่าให้กับความพริ้วของนักเตะทีมจ่าฝูงได้เช่นกัน
  • เพรสซิ่ง – เรื่องการบีบเพรสซิ่งทางฝั่ง เรือใบสีฟ้า ก็ทำได้ดีไม่ต่างกับ ลิเวอร์พูล ทุกๆเกมที่เราได้ดู ซิตี้ แข่ง เมื่อผู้เล่นคนใดคนหนึ่งเสียบอล นักเตะที่อยู่ใกล้ๆจะรีบเพรสซิ่งเข้าบีบแย่งบอลทันที และเรื่องแย่งบอลนี้ถือเป็นอาวุธหลักของพวกเขาที่มองข้ามไปไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
  • เสียประตูน้อยที่สุด – พวกเขาเพิ่งจะเสียประตูให้กับคู่แข่งไปเพียง 18 ลูกจากการลงสนาม 30 เกม น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้ จะบอลว่าแนวรับแข็งแกร่งก็ส่วนหนึ่ง แต่จริงๆแล้วด้วยเกมรุกที่ฝ่ายตนเองครองบอลเอาไว้ได้ตลอดเวลา ส่งผลให้คู่แข่งไม่สามารถสร้างโอกาสจบสกอร์ได้ต่างหาก ดังนั้นคำพูดที่ว่า “เกมรุกที่ดี คือเกมรับที่ดีที่สุด” สามารถเอามาใช้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างเต็มปากเลยก็ว่าได้

Leave a Comment

Your email address will not be published.