แดงเดือดไทย

แดงเดือดในประเทศไทย ผลแพ้ที่เข้าใจได้ของ ลิเวอร์พูล

การแข่งขันศึกแดงเดือดครั้งแรกในประเทศไทย จบลงด้วยสกอร์ที่เกินคาดชัยชนะตกไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นฝ่ายล้างแค้นถล่มเอาชนะ ลิเวอร์พูลได้แบบขาดลอย 4-0 จากผลที่ออกมาแน่นอนว่าไม่มีใครคาดคิดว่าจะห่างกันขนาดนี้ เพราะการเจอกันของคู่นี้ช่วงหลัง หงส์แดง มักไล่ยิงถล่มอยู่ฝ่ายเดียว ยิ่งไปกว่านั้น แมนยู ยังเพิ่งได้กุนซือคนใหม่เข้ามาคุมทัพได้ไม่นาน อย่างไรก็ตามหากเรามองตามความเป็นจริงความพ่ายแพ้เกมแรกของช่วงปรีซีซั่นสามารถยอมรับได้ เพราะหลังจากไปไล่ดูรายละเอียดต่างๆจะเห็นว่า…

  • บรรดานักเตะของทัพ ปีศาจแดง เล่นกันด้วยความกระหายที่มากกว่า เกมนี้เป็นการเปิดตัวคุมทีมนัดแรกอย่างเป็นทางการของ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ เพื่อทำผลงานให้นายใหญ่คนใหม่ประทับใจ จะเห็นได้ว่าผู้เล่นของยูไนเต็ดมีท่าทางที่มุ่งมั่นอย่างมาก ระบบใหม่ของปีศาจแดงค่อนข้างน่าสนใจ การวิ่งเข้าบีบเพรสซิ่งสูง และการรับส่งบอลสั้นที่รวดเร็วขึ้น เป็นวิธีการเล่นที่ไม่ได้เห็นจาก แมนยู เลยในเกมที่เจอกัน 2 นัดในลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องชื่นชมอย่างหนึ่งว่า เทน ฮาก ดูมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากโค๊ชคนอื่นๆที่ผ่านมา ทั้งความจริงจัง และระบบการเล่นที่ชันเจน ทำให้รู้สึกได้ว่า ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของเขาอาจจะกลับมาเป็นหอกข้างแคร่ของ ลิเวอร์พูล ได้ในอนาคต
  • ยูไนเต็ด เริ่มเกมด้วยไลน์อัพผู้เล่นชุดที่ดีที่สุด ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา แนวรับมี ราฟาเอล วาราน แดนกลางนำทัพโดย บรูโน่ แฟร์นานเดส ด้านแนวรุกก็มากันครบครันทั้ง มาร์กซิยาล, แรชฟอร์ด และ ซานโช่
  • กลับกัน ลิเวอร์พูล เริ่มต้นด้วยผู้เล่นตัวสำรองผสมเด็กดาวรุ่ง ไลน์อัพ 11 ตัวจริง มีผู้รักษาประตู อลิสซอน เบ็คเกอร์ คอยเฝ้าเสา แดนกลางส่งกัปตัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มาประคองเด็กๆ และแนวรุกให้ หลุยส์ ดิอาซ ช่วยเพิ่มความวูบวาบ ด้านนักเตะที่ต้องขยี้ตาในรายชื่อชุดแรกคือ ไอแซค มาบาย่า แบ็กซ้ายวัย 17 ปี และ ลุ๊ค แชมเบอร์ส แบ็กขวาวัย 18 ปี ที่เชื่อว่าแฟนๆหงส์แดงต้องถามว่าใครวะ?
  • เริ่มเกมในช่วงครึ่งเวลาแรก ออกสตาร์ทมาต้องบอกว่า ลิเวอร์พูล กลับสู้ได้ดีกว่าที่คิดมีจังหวะพาบอลเข้าไปถึงกรอบเขตโทษ สร้างโอกาสยิงให้ได้เสีย แต่ก็ไม่ผ่านมา ดาบิด เด เกอา โกลสุดเหนียวของ ยูไนเต็ด แต่เมื่อเวลาในเกมผ่านไปเรื่อยๆความห่างชั้นของคุณภาพผู้เล่นเริ่มแสดงผล ปนะตูแรกที่เสียมาจากความผิดพลาดสกัดแบบร้อนลนของ ไอแซค มาบาย่า ไอหนูวัย 17 ที่ไม่เด็ดขาดหวดบอลตั้งให้คู่แข่งยิงในกรอบเขตโทษของตัวเอง หลังจากเสียประตูแรกฝ่าย แมนยู ก็ทำได้ดีกว่า ต่อบอลมาสร้างความอันตรายได้หลายครั้ง และยิงเพิ่มมาได้อีกประตูจากลูกชิพสุดสวยของ เฟร็ด ซึ่งเริ่มมาจากความผิดพลาดเคลียร์บอลไม่เด็ดขาดของแนวรับอ่อนประสบการณ์ของ หงส์แดง อีกแล้ว
  • ด้วยสภาพความฟิตที่ไม่ถึงของนักเตะลิเวอร์พูล เยอร์เก้น คล็อปป์ จึงเลือกวางแผนแบ่งให้ลูกทีมแต่ละชุดลงสนามแค่ 30 นาที หลังเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงชุดที่สองก็โดนส่งลงสนาม โดยมีผู้เล่นที่มาจากทีมชุดใหญ่บางรายอย่าง โจเอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์, คอนสแตนตินอส ชิมิกาส ซึ่งต้องบอกว่าพวกเขาก็ไม่ได้เป็นชุดที่ดีที่สุดของทีม และเมื่อชุดใหม่ลงมาได้เพียงนาทีเดียวก็เป็ณเรื่องทันที ชิมิกาส ไปพลาดส่งติด มาร์กซิยาล จนกองหน้าเบอร์ 9 ของยูไนเต็ด หลุดเดี่ยวเข้าไปสังหารออกนำห่าง 3-0 ในครึ่งเวลาแรก
  • เกมครึ่งหลั ปีศาจแดง ตัดสินใจส่งผู้เล่นตัวสำรอง และดาวรุ่งลลงสนามบ้าง โดยแข้งที่น่าสนใจมีทั้ง ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้ายป้ายแดง, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค กองกลางชาวดัตซ์ที่มีความหวังภายใต้นายใหญ่คนใหม่หน้าคุ้น รวมไปถึง ซีดาน อิ๊กบาล และ ฟาคุนโด้ เปลลิสตรี้ สองู้เล่นดาวรุ่งอนาคตไกลของแมนยู
  • ช่วงแรกของครึ่งหลังไม่มีอะไรมากนัก ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ค่อยได้ จนกระทั้งนาทีที่ 60 แฟนหงส์แดงในสนาม ราชมังคลากีฬาสถาน ได้เฮกันลั่น เมื่อข้างสนามที่กำลังจะลงมาเล่นเป็นชุดที่สามต่างเป็นผู้เล่นตัวเก่งของทีมที่รอคอยมานานทั้งสิ้นนำทัพมาโดย โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์, ฟาบินโญ่ รวมไปถึง ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าความหวังใหม่ก็ยังได้ประเดิมสนามเป็นครั้งแรก
  • เมื่อผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามรูปเกมของ ลิเวอร์พูล ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ได้เพียงความวูบวาบ ไม่สามารถส่งบอลผ่านเส้นประตูเข้าไปได้ เท่านั้นด้วยความที่พยายามโหมบุกหวังเอาประตูตีไข่แตก แต่ไปโดนตัดบอลระหว่างทาง จนโดนสวนกลับเร็ว เป็นเหตุให้ต้องเสียประตูที่ 4 หลังจากนั้นดูเหมือนว่า หงส์แดง จะเร่งไม่ขึ้น จบเกมแพ้ไป 4-0 ต้องรับกรรมโดนล้อไปตามระเบียบ
  • จบเกมด้วยสกอร์ที่ออกมาเข้าใจว่ามีชาวเดอะ ค็อป บางส่วนเกิดอาการหัวร้อนกับฟอร์มการเล่นขอทีมรัก แต่หากเรามองหลายๆปัจจัยจะเข้าใจได้ทันทีว่าทำไมผลแบบนี้ถึงยอมรับได้ เรื่องแรกคงหนีไม่พ้นนักเตะที่ถูกส่งลงสนามจะเห็นได้ว่าเป็นผู้เล่นสำรอง กับดาวรุ่งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบางคนแม้แต่เกม คาราบาว คัพ ยังไม่เคยลงเล่นให้ทีมด้วยซ้ำ ยิ่งต้องไปเจอกับบรรดาแข้งชุดใหญ่พิเศษใส่ไข่ของคู่แข่ง รูปเกมจึงสู้ไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว
  • ต่อมาเรื่องสภาพความฟิตต้องบอกว่าทีมเราเป็นรองอย่างมาก ยูไนเต็ด ของ เทน ฮาก เข้าแคมป์ฝึกซ้อมกันได้ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว แตกต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งกลับมาซ้อมกันได้เพียงสัปดาห์เดียว ซึ่งนักเตะที่ซ้อมเต็มสัปดาห์ล้วนเป็นตัวสำรอง และดาวรุ่ง ส่วนนักเตะจากทีมชุดใหญ่เอาจริงๆมีเวลาซ้อมเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เนื่องจากพวกเขาเพิ่งกลับมาจากพักผ่อนหลังภารกิจทีมชาติ จะเห็นได้ว่าบรรดาผู้เล่นตัวหลักที่โดนส่งลงมาช่วง 30 นาทีสุดท้าย เร่งเครื่องได้เพียงแค่ 10 นาที ก็ออกอาการหายใจไม่ทันกันแล้ว
  • ต่อมาหากใครที่ติดตามการทำทีมช่วงปรีซีซั่นของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะรู้แนวทางดีว่าเกมอุ่นเครื่องช่วงแรกจะส่งผู้เล่นดาวรุ่งลงสนามเท่านั้น และผลการแข่งขันก็มักจะไม่ชนะใครเลย จริงๆแล้วหากไม่มีสัญญาที่ทำเอาไว้กับทางผู้จัดเชื่อว่าเราจะไม่มีทางได้เห็นตัวหลักของทีมโดนส่งลงสนามแน่นอน
  • ด้วยเวลาเตรียมตัวที่น้อยมาก เป็นข้ออ้างที่ฟังขึ้นสำหรับฟอร์มการเล่นที่ออกมา เชื่อว่าเกมต่อๆไปรูปเกมของ ลิเวอร์พูล จะค่อยๆไต่ระดับมาใกล้เคียงกับความจริงมากขึ้น ช่วงปรีซีซั่นจึงอยากให้เพื่อนๆปล่อยวาง และชื่มชมกับฝีเท้าของบรรดาแข้งดาวรุ่งจะดีกว่า
  • อย่างไรก็ตามต้องชื่มชม เอริค เทน ฮาก ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีระบบที่ดีขึ้น ทำให้นักเตะมีความมุ่งมั่นมากขึ้น และใส่ใจพัฒนาเรื่องรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้ทีมมีข้อผิดพลาดน้อยลง
  • เกมนี้เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เอาไว้ค่อยไปตัดสินกันที่เมนูหลักในพรีเมียร์ลีกช่วงต้นฤดูกาล ที่มีคิวแดงเดือดรออยู่ ถึงจะตัดสินกันได้ว่า ปีศาจแดง กลับมาแข็งแกร่งเช่นเดิม หรือเป็นเพียงแค่ของปลอมทำเหมือนก็ยังไม่สาย

Leave a Comment

Your email address will not be published.