ลิเวอร์พูล เป็นสโมสรใหญ่ที่ต้องรอคอยยาวนาน 30 ถึงจะสามารถปลดล็อคคว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้อีกครั้ง โดยในช่วงที่ดิวิชั่น 1 มาเป็น พรีเมียร์ลีก หงส์แดง ก็เริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามไม่ว่ายุคใดโมสรแห่งนี้ก็แทบไม่เคยขาดกองหน้าระดับโลกในทีมเลย วันนี้ lnwliverpool จะพาไปรู้จักกับ 5 ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าที่ดีที่สุดในยุคพรีเมียร์ลีกของเรากันครับ
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1993-2001, 2006-07)
จำนวน 128 ประตู จากการลงนาม 266 เกม ในพรีเมียร์ลีก ของ ฟาวเลอร์ ถือว่าเป็นสถิติสูงสุดของ หงส์แดง ณ เวลานี้ เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยิงประตูในลีกได้มากกว่าสุดยอดกัปตัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด
เจ้าของฉายา “พระเจ้า” เป็นหนึ่งในกองหน้าที่จบสกอร์ได้อย่างเฉียบคมที่สุดคนหนึ่งของโลกฟุตบอล และหากนับทุกรายการที่ลงสนาม เขาคือนักเตะที่ยิงประตูได้มากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของสโมสรลิเวอร์พูล
จริงๆแล้วสถิติของเขาน่าจะสูงกว่านี้ หากไม่โชคร้ายไปบาดเจ็บหนักช่วงอายุ 22 ปี ซึ่งกำลังเป็นวัยที่กำลังเข้าฝัก ทำสถิติซัดไป 83 ปรตู จาก 128 เกมในลีกให้กับ หงส์แดง ก่อนที่จะต้องเข้ารับการรักษานานหลายเดือน
ไมเคิ่ล โอเว่น (1996-2004)
เป็นอีกผู้เล่นที่อารมณ์คล้าย ฟาวเลอร์ หากว่าไม่โดนอาการบาดเจ็บรบกวนสถิติการโกยประตูของเขาจะพุ่งสูงกว่าตัวเลข 102 ประตูจาก 153 เกมในพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน เจ้าของฉายา “เบบี้โกล” เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวในประวัติศาสต์ของสโมสร ลิเวอร์พูล เท่านั้น ที่เคยคว้ารางวัล “บัลลงดอร์”
จากสถิติมีเพียง ฟาวเลอร์ และ เจอร์ราร์ด เท่านั้น ที่ยิงประตูในลีกได้มากกว่า โอเว่น แม้ว่าเขาจะออกไปทำตามฝันย้ายไปค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ขณะที่วัยเพียง 24 ปีเท่านั้น และหลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับมาลงเล่นให้กับ หงส์แดง อีกเลยก็ตามที
แต่เชื่อว่าเดอะ ค็อป ก็ไม่ได้อยากจดจำ โอเว่น ในฐานะกองหน้าระดับตำนานของทีมเท่าไหร่นัก เนื่องจากช่วงท้ายอาชีพ เขาได้ตัดสินใจไปเล่นให้กับคู่อริตลอดการ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เฟร์นานโด ตอร์เรส (2007-2011)
“เอล นินโญ่” ลงสนามในพรีเมียร์ลีกให้กับ ลิเวอร์พูล 102 เกม ยิงไปทั้งหมด 65 ประตู ถือเป็นผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยนในการทำประตู ต่อ นาที น้อยที่สุดในบรรดา 5 กองหน้าที่เรายกมาในวันนี้
ตอร์เรส ค้าแข้งให้กับ ลิเวอร์พูล เพียง 3 ฤดูกาลครึ่ง แต่โชคร้ายที่เข้าย้ายเข้ามาร่วมทีมในยุคที่ทัพ หงส์แดง ค่อนข้างตกต่ำ ทำให้ไม่สามารถช่วยสังกัดคว้ามาได้แม้แต่ถ้วยรางวัลเดียว
กองหน้าชาวสเปน จึงตัดสินใจออกไปหาประสบความสำเร็จกับเพื่อนร่วมลีก เชลซี โดยเขาลงเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ มากกว่า แอนฟิลด์ ทว่าว่าฟอร์มการเล่นกลับไม่ดีเหมือนเก่า อย่างไรก็ตามเขาก็สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 3 รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรปา ลีก และเอฟเอ คัพ
หลุยส์ ซัวเรซ (2011-2014)
ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นตลอด 3 ฤดูกาลครึ่งที่ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล โดยเขาเคยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำ (Golden Boot) ในฤูกาล 2013/14 หลังถล่มไปถึง 31 ประตูในลีก ซึ่งหากจำกันได้ฤดูกาลนั้นทัพ หงส์แดง เกือบจะปลดล็อคคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ด้วย แต่น่าเสียดายที่ไปพลาดท่าช่วง 3 นัดท้ายของฤดูกาล
ถ้วยรางวัลเดียวที่ ซัวเรซ เคยคว้ากับ ลิเวอร์พูล คือ ลีก คัพ ปี 2012 หลังจากย้ายออกจากอังกฤษ เขาไปประสบความสำเร็จอย่างสูงกับ บาร์เซโลน่า ที่ลาลีกา สเปน คว้าถ้วยแชมป์ ลาลีกา 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 4 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ และเป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 3 ของทีม
ส่วนผลงานในพรีเมียร์ ลีก กับ ลิเวอร์พูล ยิง 69 ประตู จาก 110 นัด
โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (2015 – ปัจจุบัน)
ดาวเตะชาวบราซิล ทำไปแล้ว 70 ประตูจาก 219 เกมในพรีเมียร์ลีก แน่นอนว่าหากเอาไปเทียบกับผู้เล่นที่ยกมาก่อนหน้านี้ค่าเฉลี่ยในกสังหารประตูของเขาต่อเกมเยอะที่สุด
อย่างไรก็ตาม ฟีร์มีโน่ เป็นกองหน้าที่มีความเป็นตัวทำเกมมากกว่าใครๆ ส่งผลให้มีตัวเลขแอสซิสต์ที่มากกว่าทุกคนที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ และเขายังเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญที่ช่วยใหทัพ หงส์แดง บินสูงอยู่ในปัจจุบัน ด้วยการประสานงานกับ ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
ฟีร์มีโน่ ยังเป็นผู้เล่ที่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล มากกว่ากองหน้าคนอื่นๆ เขาพาทีมคว้าถ้วยแชมป์มาแล้ว 4 รายการ คือ พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ