การเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ที่น่าผิดหวังของ ลิเวอร์พูล

การเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ที่น่าผิดหวังของ ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล เริ่มต้นออกสตาร์ทพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ได้อย่าน่าผิดหวัง จากที่ควรจะมี 6 คะแนนเต็ม หลังได้เห็นโปรแกรมช่วงสองเกมแรก กลับตามหาชัยชนะไม่เจอแม้แต่เกมเดียว เกิดอะไรขึ้นกับรองแชมป์เก่า วันนี้ lnwliverpool จะพาไปส่องหาสาเหตุกัน

ฟูแล่ม

ออกสตาร์ทเกมแรกของพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23 หลายฝ่ายมองว่า หงส์แดง รองแชมป์เก่า เจอกับงานง่าย เมื่อโปรแกรมจัดให้เจอกับ “เจ้าสัวน้อยฟูแล่ม ทีมน้องใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา โดยผู้เล่น 11 ตัวจริง เจอร์เก้น คล็อปป์ เลิอกที่จะจัดชุดเก่งแบบเต็มสูบ อลิซอน เบ็คเกอร์ นายทวารมือหนึ่งหายเจ็บกลับมาลงเฝ้าเสาได้อีกครั้ง เวอร์จิล ฟานไดจ์ จับคู่กับ โจเอล มาติป เป็นกำแพงเหล็กคอยปกป้องหน้าปากประตู ด้านตำแหน่งแบ็คทั้งสองฝั่งก็หนีไม่พ้น เทรนต์ อาเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวา กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้าย ด้านกลางสนามเป็นชุดกลางในฝัน ฟาบินโญ่ , เฮนเดอร์สัน , ติอาโก้ ด้านแนวรุกด้านข้างใช้บริการสองตัวจี๊ด โม ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาส ส่วนกองหน้าตัวกลางเลือกใช้เซฟใช้ผู้เล่นเก่าอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

เริ่มเกมมารูปเกมกลับไม่เป็นอย่างที่คาด เมื่อน้องใหม่ลงสนามมาด้วยความคึกคะนองสุดขีด วิ่งบีบเข้าใส่ผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล อย่างดุดัน ทำให้ผู้มาเยือนตั้งเกมของตัวเองไม่ได้ นแกจากนี้เมื่อแย่งบอลมาได้ ยังโจมตีด้วยลูกสวนกลับ จนใกล้เคียงที่จะได้ประตูอยู่หลายครั้งหลายหน จนกระทั้งเจ้าบ้านมาได้ประตูออกนำ 1-0 จากลูกครอสบอลไปให้ มิโตวิช กองหน้าร่างยักษ์ตัวเก่งโถมโขกเข้าไป

เกมในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ที่กลับไปแก้เกมเรียกสติกลับมาเริ่มเล่นได้ดีขึ้นจนมาได้ประตูตีเสมอจาก ดาร์วิน นูเญซ ดาวยิงคนใหม่ที่โดนส่งลงมาเป็นสำรอง หลังจากได้ประตูเสมอ หงส์แดง เริมเดินหน้าบดหวังแซงชนะ แต่กลับมาเสียจุดโทษจากกจังหวะที่โดนสวนกลับจึงโดนออกนำอีกครั้ง ยังดีที่หลังจากนั้นไม่นาน ซาลาห์ มาได้จังหวะส้มหล่นยิงตีเสมอให้ทีมได้อีกครั้ง ผลจึงจบลงที่ 2-2 แบ่งคะแนนกันไป

จากรูปเกมต้องบอกว่าแม้จะไม่น่าเสียดาย แต่คะแนนที่แบ่งมาได้ กับฟอร์มการเล่นที่แสดงอออกมา ฟูแล่ม ทำได้อย่างน่าประทับใจ ไม่มีทรงของทีมที่ไม่พร้อมดั่งที่ มาร์โก ซิลวา เฮดโค้ชของฟูแล่ม ออกมาสัมภาษณ์ก่อนเกมเลยแม้แต่น้อย

ด้าน หงส์แดง กลับกันถือเป็นฟอร์มที่น่าผิดหวัง โดบเฉพาะ 45 นาทีแรก นักเตะแต่ละคนเหมือนจะยังไม่ตื่น บอลที่เคยดุดันเป็นเอกลักษณ์ ไม่สามารถทำอันตรายใดๆใส่คู่แข่งได้เลย แดนกลางไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้ ด้านแบ็คทั้งสองข้างก็ผิดฟอร์มเสียบอลแบบง่ายๆหลายครั้งหลายครา โดยเฉพาะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เกมรุกหายไป ด้านเกมรับก็โดนเล่นงานจนเสียประตู เวอร์จิล ฟานไดจ์ ที่ไว้ใจได้มากที่สุดเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานจนทำทีมเสียจุดโทษ ด้านกองหน้าตัวเป้าแทบไม่ได้เลือกชื่อ

ส่วนเรื่องดีที่เห็นได้จากเกมนัดแรกของฤดูกาลคือการเปิดตัวหล่อๆของ ดาร์วิน นูนเญซ ดาวยิงตัวความหวังคนใหม่ ที่ลงมาเป็นสำรองเปลี่ยนเกมได้ช่วยทีมยิงไป 1 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ แม้แต่ละลูกจะมีโชคช่วยอยู่บ้าง แต่การเคลื่อนที่ของเขาก็ช่วยทีมสร้างโอกาสให้ทีได้ รวมไปถึงยังช่วยเพิ่มความมั่นใจ ลดแรงกดดันจากค่าตัวอันมหาศาลของเจ้าตัวได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นฟอน์มการเล่นโดยรวม และคะแนนเดียวที่เก็บมาได้ ช่างน่าผิดหวังสำหรับทีมระดับลุ้นแชมป์

สิ่งที่ดีที่สุดในเกมนี้เลยคือผลการแข่งขัน เราได้คะแนนมาจากเกมที่เล่นได้แย่มากๆ ทัศนคติของเราตอนเริ่มเกมมันไม่ใช่เลย” “มันเป็นผลที่โอเค เราไม่ควรได้มากกว่านี้ และฟอร์มการเล่นของเราต้องพัฒนาอีกเยอะเลย” เจอร์เก้น คล็อปป์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกม

คริสตัล พาเลซ

เกมทีสอง ลิเวอร์พูล ได้กลับมาลงเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ พบกับคู่แข่งที่ไม่ยากอีกครั้ง “ปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ โดยสติติการเจอกันก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะมาได้ถึง 12 เกมติดต่อกัน โดยเกมนี้กุนซือชาวเยอรมันต้องปรับเปลี่ยนทัพพอสมควร เนื่องจากก่อนลงสนามหงส์แดงมีรายชื่อผู้เล่นบาดเจ็บกว่า 10 ราย ตำแหน่ง เซนเตอร์แบ็ก จึงต้องส่ง นาธาเนียล ฟิลลิปส์ กองหลังลำดับที่ 5 ลงมาจับคู่กับ เวอร์จิล ฟานไดจ์ ด้านแดนกลาง 3 คนเป็น ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ด้านแนวรุกมีการปรับเปลี่ยนให้ ดาร์วิน นูนเญซ ยืนเป็นหัวหอกตัวจริง

เริ่มเกมมาเจ้าบ้านเล่นกันได้อย่างคึกคักแตกต่างจากเกมที่ผ่านมาอย่างมาก สามารถครองบอลบุกเอาไว้ได้ฝ่ายเดียว เกมข้างเดียวที่ แอนฟิลด์ แตกต่างกันถึงขนาดที่ คริสตัล พาเลซ ไม่สามารถเคลื่อนบอลไปในกรอบเขตโทษของ ลิเวอร์พูล ได้เลยใน 25 นาทีแรกของเกมชนิดที่สถิติในการสัมผัสบอลของ พาเลซ ในเขตโทษ หงส์แดง เป็น 0 ครั้ง แต่ ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสยิงหลายครั้งยังขาดๆเกินๆในจังหวะจบสกอร์ จึงไม่อาจทำประตูออกนำได้

จนกระทั่งการแข่งขันเดินทางมาถึงนาทีที่ 32 ผู้มาเยือนที่อดทนตั้งรับลึกอยู่นานสบโอกาสใช้จังหวะสวนกลับเร็วฉวยประตูออกนำได้ก่อน 0-1 หลังจากเสียประตู หงส์แดง ยังคงพยายามเดินหน้าบุกแต่ยังคงเจอปัญหาเดิม จบสกอร์ไม่คม

ครึ่งหลังเริ่มมาได้เพียงไม่นาน ลิเวอร์พูล ตกที่นั่งลำบากไปอีกขั้น เมื่อ ดาร์วิน นูนเญซ กองหน้าคนใหม่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ไปโขกคู่แข่ง จนโดนใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่ 57 ซึ่งจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่เล่นงานทำให้เจ้าถิ่นไม่เหลือกองหน้าแม้แต่คนเดียว ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน หงส์แดง มาได้ประตูตีเสมอจากฝีตีนของ หลุยส์ ดิอาส หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบลงด้วยการแบ่งคะแนนกันไป ส่งผลให้รองแชมป์เก่าจบ 2 เกมแรกแบบตามหาชัยชนะไม่เจอ มีอยู่เพียง 2 คะแนน

เกมนี้แม้จะจบด้วยผลเสมอเหมือนกับนัดแรก แต่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ฟอร์มการเล่นในสนามถูกยกระดับขึ้นมาใกล้เคียงกับมาตรฐานเดิม ตั้งแต่นาทีแรก หรือหลังจากที่เหลือผู้เล่นเพียง 10 คนในสนาม หงส์แดง ยังคงเดินหน้าบุกตะลุยเข้าใส่คู่แข่ง เพียงแต่ยังขาดเรื่องการจบสกอร์เท่านั้น

สำหรับโปรแกรมต่อไป ลิเวอร์พูล ต้องยกพลไปทำศึก “แดงเดือด” กับอริตลอดกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรื่องฟอร์มการเล่นในสนามดูจะไม่ค่อยน่ากังวลเท่าไหร่นัก นักเตะเหมือนโดนปลุกให้ตื่นหลังประมาทเสียคะแนนไปตั้งแต่เกมแรก แต่ปัญหาที่กลับมาเล่นงานทัพหงส์แดงคืออาการบาดเจ็บ ต้องรอดูว่าจะส่งผลกระทบมากน้อยเพียงใด ในคืนวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม นี้เท่านั้นครับ

Leave a Comment

Your email address will not be published.