ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22

สรุปผลงานทุกถ้วยของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22

จบลงไปแล้วสำหรับการแข่งขันฟุตบอลในฤดูกาล 2021-22 ซึ่งปีนี้ ลิเวอร์พูล ได้ลงเล่นครบทุกนัดทุกรายการ มีทั้งความสมหวัง และความผิดหวัง lnwliverpool จึงไม่ลืมที่จะนำบทสรุปของรายการต่างๆมาฝากเพื่อนชาวหงส์แดงกันครับ

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในถ้วยพรีเมียร์ลีก 2021-22

เริ่มกันที่เวทีลีกสูงสุดของประเทศอย่างพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ทัพ หงส์แดง ยังคงโชว์ฟอร์มได้ตามาตรฐานเก็บมาได้ถึง 92 คะแนนจาก 38 เกมที่ลงเล่น ซึ่งตัวเลขแต้มดังกล่าวแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพลาดแชมป์หากนับสถิติย้อนไปตลอด 30 ปีหลังของศึกพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามฟ้าเหมือนจะกลั่นแกล้งส่งชายที่ชื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาอยู่ในยุคเดียวกัน เป็นอีกครั้งที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปาดหน้าคว้าถ้วยแชมป์ไปครองได้แบบที่คะแนนห่างกันเพียงแต้มเดียว ซึ่งการลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2021-22 ต้องดูกันถึงเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาล โดยเงื่อนไขของ ลิเวอร์พูล มีเพิ่งต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น แล้วเกมนั้นจบลงด้วยชัยชนะเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-1 ทางด้าน แมน ซิตี้ เพื่อการันตีแชมป์ชัวร์ๆคือต้องคว้า 3 คะแนนมาให้ได้เท่านั้น และเหมือนบทเหมือนจะปูมาให้เป็นละครดราม่า เมื่อเกมสุดท้ายต้องเปิดบ้านพบกับ แอสตัน วิลล่า ที่มีอดีตกัปตันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ หงส์แดง อย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด คุมทัพอยู่ แล้วเกมนี้ก็เริ่มต้นได้เหมือนฝันของชาวเดอะ ค็อป เมื่อ วิลล่า บุกมายิงประตูออกนำห่างได้ก่อน 2-0 ในนาทีที่ 70 ดังนั้นขอเพียงในเวลา 20 นาทีหาก ซิตี้ ยิงแซงไม่ได้แชมป์จะเปลี่ยนมือทันที แต่สุดท้ายก็ต้องชมความยอดเยี่ยมของทีม เรือใบสีฟ้า ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาที กระหน่ำซัดรัวๆ 3 ประตู พลิกแซงกลับมาชนะได้แบบเหลือเชื่อ เก็บเพิ่มมาได้เป็น 93 คะแนน ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ต้องอกหักชวดแชมป์อย่างเจ็บแสบอีกครั้ง

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในถ้วยคาราบาว คัพ 2021-22

อย่างที่แฟนๆรู้กันว่าถ้วยนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ค่อยให้ความสำคัญมากเท่าไหร่นัก ส่งผู้เล่นชุดดาวรุ่งผสมตัวสำรองลงสนาม แต่ด้วยคุณภาพของผู้เล่นสำรองที่สูงขึ้นระดับไม่ได้แตกต่างกับตัวจริงมาก ส่งผลให้สามารถพาทีมทะลุผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศได้ ซึ่งคู่แข่งเกมสุดท้ายเป็นการพบกับยอดทีมของลีกอย่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เกมการแข่งขันนัดชิงดำเป็นไปอย่างสนุกสูสี แต่สุดท้ายทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0-0 ต้องไปดวลจุดโทษตัดสิน ช่วงจุดโทษทั้งสองฝ่ายต่างแสดงให้เห็นว่าซ้อมกันมาเป็นอย่างดี 10 คนแรกของทั้งฝ่ายยิงเข้าทั้งหมด มาถึงคนที่ 11 ซึ่งเป็นผู้รักษาประตู ลิเวอร์พูล ที่ได้เริ่มยิงก่อน เกมนี้พวกเขาใช้โกลมือสองอย่าง ควิวีน เคลเลเฮอร์ สังหารเข้าไปไม่พลาด ทางด้าน เชลซี ที่ตัดสินใจส่ง เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ผู้รักษาประตูจอมเซฟจุดโทษลงแทน เอดูอาร์ เมนดี้ ผู้รักษาประตูตัวจริงในช่วงต่อเวลาพิเศษ ปรากฎว่าโกลค่าตัวแพงสุดในโลกยิงจุดพลุออกไปแบบไม่ได้ลุ้น ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาครองได้เป็นถ้วยใบแรก

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในถ้วยเอฟเอ คัพ 2021-22

เอฟเอ คัพ เป็นอีกรายการบอลถ้วยในประเทศที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้เน้นเท่าไหร่นักตั้งแต่คุมทีมมาตกรอบตลอด ครั้งนี้ก็เป็นแบบเช่นเดิมส่งผู้เล่นชุดสำรอง และเด็กดาวรุ่งลงเล่นเพื่อหาประสบการณ์ แต่สุดท้ายเหล่านั้นก็สู้จนผ่านเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และคู่แข่งในรอบชิงถ้วยก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลเป็น เชลซี เจ้าเก่าเจ้าเดิมอีกครั้ง เท่านั้นยังไม่พอผลการแข่งขันในเวลา 120 นาทีทั้งสองทีมยังกินกันไม่ลงเสมอกัน 0-0 ต้องดวลลูกโทษตัดสินกันอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ ลิเวอร์พูล มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่าง อลิซง เบ็คเกอร์ ลงเฝ้าเสา ทางด้าน เชลซี ตัดสินใจไม่ใช้ไม้เดินยังคงไว้ใจให้ เอดูอาร์ เมนดี้ รับหน้าที่เซฟจุดโทษ สุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็จบแบบเดิม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะจุดโทษได้ด้วยสกอร์ 5-6 คว้าแชมป์ที่สองของฤดูกาลมาครองได้สำเร็จ

ผลงานของ ลิเวอร์พูล ในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2021-22

พลพรรค หงส์แดง ต้องโดนจับมาอยู่ใน “กรุ๊ป ออฟ เดธ” ของรอบแบ่งกลุ่มที่มีเพื่อนร่วมทั้ง แอตเลติโก้ มาดริด, เอซี มิลาน และปอร์โต้ แต่กลับโชว์ฟอร์มโหดไล่ทุบทุกทีมที่ขวางหน้าเก็บชัยชนะได้ 6 เกมรวด ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ได้แบบไร้รอยขัดข่วน ก่อนที่จะไล่เก็บทั้ง อินเตอร์ มิลาน, เบรฟิก้า และบียาร์เรอัล ทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนเเลิศได้เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปีหลัง โดยคู่แข่งชิงถ้วยครั้งนี้ก็ไม่ใช้ใครที่ไหนคือ “ราชันชุดชาว” เรอัล มาดริด คู่แค้นเก่าเจ้าของแชมป์ยุโรปมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 13 สมัย เกมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศรูปเกมเป็นฝ่าย ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่า ครองบอลบุกเข้าใส่ พร้อมหาจังหวะยิงประตูได้มากมาย ด้าน เรอัล มาดริด มาเล่นแบบเหนียวแน่นเน้นการโต้กลับ สุดท้ายเป็นทีม ราชันชุดขาว ที่ใช้จังหวะได้จบสกอร์จากการเล่นเกมสวนกลับเพียงครั้งเดียวที่ได้ง้างยิงตรงกรอบได้ประตูชัยเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 แม้เกมนี้ หงส์แดง น่าจะได้ประตูหลายต่อหลายหนมีจังหวะยิง 23 ครั้ง และบอลตรงกรอบถึง 9 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถผ่าน ติโบต์ กูร์ตัวส์ นายด่านของทัพราชันชุดขาวที่วันนี้แสงออกมือไปได้ จบเกมจึงเป็นความพ่ายแพ้ของทัพ หงส์แดง ให้กับยอดทีมแห่งแดนกระทิงดุอีกครั้ง อีกครา

สรุปผลงานของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาล 2021-22

หากตัดสินกันระหว่างทางถือว่า ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมีลุ้นแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่นในฤดูกาลนี้ แต่ต้องยอมรับว่าการที่พลาดเป้าแชมป์ 2 รายการใหญ่ แล้วได้มาเพียงบอลถ้วยในประเทศ เป็นอะไรที่น่าผิดหวังอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน ตอนนี้ถึงช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนแล้ว จากผลงานแต่ละปีที่ผ่านมาเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีมาตรฐานที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีอะไรผิดพลาดฤดูกาลต่อไปเราคงต้องมาเหนื่อยลุ้นแชมป์กันอีกเช่นเคยครับ

Leave a Comment

Your email address will not be published.