อะคาเดมี่ลิเวอร์พูล

10 นักเตะที่ดีที่สุดจากอะคาเดมี่ลิเวอร์พูล

ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน และแทบทุกยุคสมัยจะมีนักเตะที่ทะลุจากอะคาเดมี่ขึ้นมาสร้างชื่อกับทีมชุดใหญ่ วันนี้ lnwliverpool จะพาไปรู้จักกับ 10 นักเตะที่ดีที่สุดจากผลผลิตจากอะคาเดมี่หงส์แดงกันครับ

รอนนี่ มอแกน (Ronnie Morgan)

แบ็กซ้ายชาวอังกฤษ ลงเล่นให้กับลิเวอร์พูลชุดใหญ่ในช่วงปี 1952-1968 โดยเขาถือเป็นผู้เล่นวันแมนคลับ หลังตลอดชีวิตการค้าแข้งเล่นในชุดหงส์แดงเพียงทีมเดียวเท่านั้น มอแกน ได้รับการยกย่องเรื่องความทุ่มเทอยู่ตลอดเวลา หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 1968 เขาได้ผันตัวมาเป็นสตาฟฟ์โค๊ชของทีมอีกถึง 30 ปี ก่อนที่จะเกษียณตัวเองเมื่อปี 1998 จึงไม่น่าแปลกใจที่ฉายาของเขาคือ “มิสเตอร์ลิเวอร์พูล

สตีฟ แม็คมานามาน (Steven McManaman)

หนึ่งในนักเตะชื่อดังในช่วงยุค 90s และเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม “สไปซ์บอย” ในตำนาน โดยแม็กมานามาน ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 1990 ก่อนที่จะเป็นกำลังสำคัญด้วยสไตล์การลากเลื้อยสุดจี๊ด จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งปีกที่อันตรายที่สุดของอังกฤษในยุคนั้น

เขาค้าแข้งกับลิเวอร์พูลตั้งแต่ช่วงปี 1990-1999 คว้าแชมป์มาได้ 2 รายการ คือ เอฟเอ คัพ 1992 และลีกคัพ 1995 อย่างไรก็ตามดาวเตะรายนี้จบกับสโมสรไม่ค่อยดีนักเมื่อเขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม แลพเลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แบบไม่มีค่าตัว สุดท้ายอาจจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขา เนื่องจากเมื่อย้ายไปอยู่ในชุดขาว ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาได้ถึง 6 รายการ

ทอมมี่ สมิธ (Thomas Smith)

กองหลังคนสำคัญที่มีบทบาทพาทัพหงส์แดง ยิ่งใหญ่ในยุค 60s จนถึงช่วงยุค 70s สมิธ เล่นให้สโมสรระหว่างปี 1962-1978 ลงสนามไปทั้งหมด 638 เกม มากสุดเป็นอันดับ 8 ตลอดกาลของสโมสร และคว้าแชมป์มาได้ถึง 14 รายการ

เจที่ คาร์ราเกอร์ (Jamie Carragher)

อีกหนึ่งผู้เล่นวันแมนคลับของสโมสรลิเวอร์พูล ปราการหลังชาวอังกฤษลงสนามให้ไปทั้งหมด 737 เกม ระหว่างปี 1996-2013 ที่ค้าแข้งในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ ถือเป็นสถิติลงสนามมากสุดตลอดกาลอันดับสองของสโมสร โดยตลอด 17 ปี เขาคว้าแชมป์ได้ถึง 11 รายการ

ปัจจุบัน คาร์ราเกอร์ ยังคงปรากฎตามข่าวให้ได้เห็นหน้าประจำ ในฐานะคอมเมนเตเตอร์ตัวท็อปแห่ง Sky Sports

ไมเคิล โอเว่น (Michael Owen)

แม้ในปัจจุบันเขาจะไม่ได้รับการชื่มชมจากชาวเดอะ ค็อป เท่าไหร่นัก แต่ก็ต้องนอมรับบว่า โอเว่น ถือเป็นนักเตะจากอคาเดมี่ที่ประสบความสำเร็จจนเป็นปรากฎการณ์ในช่วงรอยต่อปลายปี 90 จนถึงต้นปี 2000

กองหน้ารายนี้ทะลุขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 1996 ซึ่งตอนนั้นมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น ลีลาการถล่มประตูคู่แข่งแบบไม่ไว้หน้าทั้งๆที่อายุยังไม่พ้นวัยดวรุ่ง บวกกับรูปร่างขนาดเล็ก จึงเป็นที่มาของฉายา “เบบี้โกล” โดยเขาลงเล่นให้กับสโมสรที่ปลุกปั้น 297 เกม ยิงไป 158 ประตู ช่วยทีมคว้าแชมป์ 6 รายการ และเป็นนักเตะเพียงคนเดีวของ ลิเวอร์พูล ที่คว้ารางวั “บัลลงดอร์”

เหตุผลที่เขาไม่ได้รับความรักจากแฟนบอลมาจากการบีบสโมสรขายตนเองให้ เรอัล มาดริด เมื่อปี 2004 เท่านั้นยังไม่พอในปี 2009 เขาตัดสินใจย้ายไปซบตักคู่อริตลอดกาล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ฟิล ธอมป์สัน (Phil Thompson)

ธอมป์สัน ด้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1972 ในยุคของบรมกุนซือ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ หลังจากนั้นคือตำนาน ปราการหลังรายนี้ลงเล่นไปทั้งหมด 477 เกม คว้าแชมป์ได้ถึง 22 รายการ ก่อนจะตัดสินใจเลิกเล่นในปี 1985

ต่อมาเขาก็กลับมามีบทบาทกับสโมสรในฐานะผู้ช่วยของกุนซือ เชราร์ อุลลิเยร์ ก่อนจะมีส่วนร่วมพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2000-2001 จากการคว้าสามแชมป์ฟุตบอลถ้วย ได้แก่ ลีกคัพ, เอฟเอคัพ และยูฟ่า คัพ

เอียน คัลลาแกน (Lan Callaghan)

เจ้าของสถิติลงสนามให้กับลิเวอร์พูลมากที่สุดตลอดกาล คันลาแกน ลงสนามให้หงส์แดงไปถึง 857 เกม ในระหว่างปี 1960-1978 และถือเป็นขุนพลเอกคนสำคัญช่วงก่อร้างสร้างทีมในยุคของ บิลล์ แชงค์ลีย์ ซึ่งเป็นรากฐานก่อนที่ทีมจะก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา

สุดท้ายเขาคว้าแชมป์กับลิเวอร์พูลได้ถึง 19 รายการ รวมถึงยังได้เป็นหนึ่งในสมาชิกทีมชาติอังกฤษชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเมื่อปี 1966 อีกด้วย

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (Robbie Fowler)

กองหน้าเจ้าของฉายา “เดอพ ก็อด” นักเตะขวัญใจชาวเดอะ ค็อปในยุค 90s

ฟาวเลอร์ ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในปี 1993 และสามารถยิงประตูได้ทันที ในเกมลีกคัพเลกแรกที่ชนะฟูแลม 3-1 และที่สุดยอดกว่านั้นคือการเหมายิงคนเดียว 5 ประตู พาทีมถล่มแบบขาดลอยในเลกสองถึง 5-0

เขาอยู่ทีมจนถึงปี 2001 ซึ่งในฤดูกาลสุดท้าย 2000-2001 ก็ส่งท้ายได้อย่างสวยงามด้วยการพาทีมคว้าสามแชมป์ฟุตบอลถ้วยอย่างลีกคัพ, เอฟเอคัพ รวมถึงยูฟ่า คัพ

จากนั้นเขาโยกไปเล่นให้ลีดส์ ยูไนเต็ด รวมถึงแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระทั่งในปี 2006 ก็ตัดสินใจย้ายกลับค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้งจนถึงปี 2007 พร้อมฝากสถิติยิงประตูรวมทั้งสองรอบที่อยู่กับทีมไปทั้งหมด 183 ประตู มากที่สุดอันดับ 6 ตลอดกาลของสโมสร จากการลงเล่น 369 เกม

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์(Trent Alexander-Arnold)

นักเตะที่เป็นความภาคภูมิใจของอะคาเดมีลิเวอร์พูล ที่ก้าวไปยืนหยัดในทีมชุดใหญ่ในปัจจุบัน เดิมทีนั้น อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เล่นเป็นกองกลางให้ทีมชุดเยาวชน แต่ถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ ผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในฐานะแบ็คขวา ก่อนจะกลายมาเป็นหนึ่งในฟูลแบ็คต้นแบบของโลกลูกหนังยุคใหม่ ที่มีดีในด้านการเติมเกมบุก รวมถึงจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ

และที่น่าทึ่งก็คือ เขาคว้าแชมป์รายการใหญ่กับลิเวอร์พูลได้ครบถ้วยหมดแล้ว ในวัยเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น

สตีเว่น เจอร์ราร์ด (Steven Gerrard)

สตีวี่จี เข้าสู่อะคาเดมีของหงส์แดงตั้งแต่อายุเพียงแค่ 8 ขวบ ก่อนจะได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในปี 1998 และรับใช้สโมสรมายาวนานจนถึงปี 2015 ฝากสถิติลงเล่น 710 เกม มากที่สุดอันดับ 3 ตลอดกาลของสโมสร และยิงไป 186 ประตู มากที่สุดอันดับ 5 ตลอดกาลของสโมสร พร้อมคว้าแชมป์ทั้งหมด 9 รายการ

ไม่มีนักเตะคนไหนมีอิทธิพลกับลิเวอร์พูลในช่วงศตวรรษที่ 21 ได้เท่ากับ เจอร์ราร์ด อีกแล้ว และเขายังได้รับการยอมรับว่าเป็นกัปตันทีมที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสรอีกด้วย

Leave a Comment

Your email address will not be published.