ตลาดหน้าหนาว เป็นช่วงที่เปิดโอกาสให้ทีมต่างๆของยุโรป เสริมผู้เล่นระหว่างฤดูกาล เพื่อมาแก้ปัญหาที่ผ่านมาในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แม้ระยะเวลาช่วงเปิดตลาดเป็นเพียงเวลาสั้นๆแตกต่างจากช่วงซัมเมอร์ แต่ก็มีหลายดีลที่เป็นน่าจดจำเกิดขึ้น วันนี้ทีมงาน lnwliverpool จะพาไปรู้จักกับ 3 แข้งที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ที่ย้ายมาในช่วงเดือนมกราคมกันครับ
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
เจ้าของฉายา “พ่อมดน้อย” ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาสู่รั้วแอนฟิลด์ เมื่อปี 2013 ด้วยค่าตัวสุดถูกเพียง 8.5 ล้านปอนด์เท่านั้น โดย ณ เวลานั้น คูตินโญ่ เป็นหนึ่งในแข้งพรสวรรค์สูงของประเทศบราซิล
ดาวเตะชาวบราซิเลียน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ลิเวอร์พูล เพียงฤดูกาลแรกกับทีมก็ได้รับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร จากนั้นเขาก็พัฒนาฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆจนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเกือบจะพา หงส์แดง ปลดล็อคแชมป์ลีคสูงสุดได้ แต่โชคร้ายที่ทีมไปพลาดท่าในช่วงท้ายฤดูกาลจึงจบเป็นแค่รองแชมป์ในฤดูกาล 2013/14
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร ลิเวอร์พูล 2 ฤดูกาลติดต่อกัน(2014/15, 2015/16) แต่น่าเสียดายที่ตลอด 6 ปีในถิ่น แอนฟิลด์ เขาไม่สามารถคว้าแชมป์กับทีมได้เลย ก่อนที่จะตัดสินใจขอย้ายไปทำตามฝันค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2018
อย่างไรก็ตามนอกจากค่าตัวที่ซื้อมาสุดถูก และผลงานที่ช่วยทีมแล้ว ที่ดีลนี้ได้รับการเลือกให้เป็น 1 ใน 3 การซื้อขายที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล มาจากตัวเลขค่าตัวชอง คูตินโญ่ ที่ขายไปให้ยอดทีมจากแคว้น กาตาลุญญา สูงถึง 105 ล้านปอนด์ ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวนำมาซึ่งความรุ่งเรืองของ ลิเวอร์พูล ในอนาคต
หลุยส์ ซัวเรซ
ดาวยิงชาวอุรุกวัย ย้ายจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม เข้ามาร่วมทัพ หงส์แดง เมื่อปี 2011 ด้วยค่าตัว 22.8 ล้านปอนด์ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกในเวลาต่อมา
หากใครยังจำกันได้ในตลาดหน้าหนาวรอบนั้น ลิเวอร์พูล ต้องเสียดาวยิงเบอร์หนึ่งของทีมอย่าง เฟอร์นานโด ตอร์เรส ไปให้กับ เชลซี เงินค่าตัวของแข้งชาว สเปน โดนแบ่งมาซื้อ 2 กองหน้าคือ แอนดี้ แคร์โรล และ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งรายแรกถือเป็นหนึ่งในดีลยอดแย่ของสโมสร แต่รายหลังกลับได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดตลอดกาล
ผลงาน 82 ประตู จากการลงสนาม 133 นัด บ่งบอกถึงคุณภาพฝีเท้าของ ซัวเรซ แบบที่ไม่มีใครสงสัย โดยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2013/14 เขาแสดงฟอร์มการเล่นระดับมาสเตอร์พีซ ด้วยการสังหารไปคนเดียว 31 ประตูจาก 33 เกมในลีก คว้าตำแหน่งดาวซัลโวของลีก และรางวัลรองเท้าทองคำของยุโรป ส่งผลให้ ซัวเรซ เป็นผู้เล่นคนที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล ต่อจาก เอียน รัช ที่เคยทำเอาไว้ในฤดูกาล 1983/84
“คิง หลุยส์” มีเวลาค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เพียง 3 ปีครึ่ง เท่านั้น แต่ประสบความสำเร็จได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย และคว้าแชมป์ลีกคัพในฤดูกาล 2011/12 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ ซึ่งเขายังคงโดนหน้าถล่มประตูให้กับสังกัดใหม่จนคว้าแชมป์มาครองได้มากมาย และถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของยุคในเวลาต่อมา
เวอร์จิล ฟาน ไดค์
ลิเวอร์พูล ที่แทบจะไม่ค่อยใช้เงินมากมายซิ้อตัวผู้เล่น ยอมทุ่มงบก้อนโตระดับประวัติศาสตร์ถึง 75 ล้านปอนด์ ให้กับ เซาแธมป์ตัน เพื่อคว้าตัวปราการหลังจากเนเธอร์แลนด์เข้ามาร่วมทัพ
การย้ายมาของกองหลังร่างยักษ์มีส่วนสำคัญช่วยแนวรับที่เป็นปัญหาของ หงส์แดง มาเป็นเวลานานแข็งแกร่งขึ้นแบบหลังเท้าเป็นหน้ามือ จนส่งผลให้ ลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้ง ปลดล็อคคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีคที่ชาวเดอะ ค็อป รอมาอย่างยาวนาน 30 ปี, พาทีมก้าวขึ้นมาเป็นเจ้ายุโรปคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 6, ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ และ สโมสรโลก
จากถ้วยแชมป์ที่ ฟาน ไดค์ มีส่วนสำคัญพาทีมกวาดมาได้ จึงมองว่าการซื้อตัวครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในดีลที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ลิเวอร์พูล เลยก็ว่าได้