สโมสร ลิเวอร์พูล ก่อตั้งมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ ค.ศ. 1892 ผ่านความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน มีผู้เล่นหลาคนที่ถูกจดจำในฐานะตำนานของสโมสร อย่างไรก็ตาม บางครั้งเรามองข้ามผู้นำในสนาม บทความนี้ lnwliverpool จะนำเพื่อนๆไปรู้จักกับ 5 อันดับผู้เล่นที่ได้สวมปลอกแขนกัปตันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
ทอมมี่ สมิธ
อดีตนักฟุตบอลรายนี้เกิดที่เมือง ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 5 เมษายน 1945 เขาเล่นในตำแหน่งกองหลัง โดยเขาเริ่มเล่นกับทีมเยาวชนของลิเวอร์พูลในปี 1960 ก่อนที่จะลงเล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 1962 ก่อนที่เจ้าของฉายา “The Anfield Iron” จะก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของสโมสรในเวลาต่อมา
ช่วงสองถึงสามฤดูกาลแรกเขาโดนส่งลงสนามในหลายตำแหน่งทั้งกองกลางตัวรับ และฟูลแบ็ก ก่อนที่จะหาตำแหน่งหลักเจอในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กคู่กับ รอน เยตส์ กัปตันทีม
สมิธ กลายมาเป็นกำแพงเหล็กแห่งแอนฟิลด์พาลิเวอร์พูลประสบความสำเร็จมากมาย สมิธเป็นคนที่แข็งกร้าวที่สุด แต่เขาก็เป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์มากเช่นกัน หลายคนอาจแปลกใจที่รู้ว่าเขาโดนไล่ออกเพียงครั้งเดียวตลอดอาชีพการค้าแข้ง และได้รับใบเหลืองเพียงไม่กี่ใบเท่านั้น ทั้งๆที่เขาเข้าปะทะคู่แข่งอย่างรุนแรงมาทั้งชีวิตค้าแข้งก็ตาม
สมิธเข้าสวมปอกแขนกัปตันทีมลิเวอร์พูลแทนที่เยตส์ในปี 1970 ในยุคที่เขาเป็นกัปตันนำทีมคว้าแชมป์ลีก และยูฟ่าคัพสองครั้ง
ในระหว่างที่ค้าแข้งให้ ลิเวอร์พูล เขาคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย เอฟเอคัพ 2 สมัย ยูฟ่าคัพ 2 สมัย และยูโรเปี้ยนคัพ 2 สมัย ลงเล่น 638 นัด ยิงได้ 48 ประตู
แกรม ซูเนสส์
สัจธรรมของชีวิตบอกว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ แน่นอนว่าเรื่อวราวของซูเนสส์ที่ลิเวอร์พูลก็เป็นเช่นนั้น ในฐานะผู้เล่นเขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุด บางทีอาจจะเป็นกองกลางที่ดีที่สุดที่ด้วยซ้ำ แต่ในฐานะผู้จัดการ เขาเป็นหนึ่งในคนที่แย่ที่สุดของเช่นกัน
ซูเนสส์คือต้นแบบที่ รอย คีน ต้องการจะเป็น เขาเป็นมิดฟิลด์ที่มีความสามารถรอบด้านไม่มีจุดอ่อน แค่เพียงชื่อก็ส่งความสั่นสะท้านให้แนวรับคู่แข่งแล้ว ซูเนสส์เป็นคนที่แข็งกร้าว เขาเป็นนักแท็คเกิ้ลที่ยอดเยี่ยมซึ่งไม่เคยกลัวใคร เขายังเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์อย่างน่าอัศจรรย์ในด้านการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม มีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยม ยิงได้ทั้งสองเท้า ด้วยทักษะทำให้เขาช่วยคุมเกมเอาไว้ได้ตลอด 90 นาที
ซูเนสส์ย้ายมาร่วมทัพลิเวอร์พูลในเดือนมกราคมปี 1978 ก่อนที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูง คว้าแชมป์ลีก 6 สมัย ยูโรเปี้ยนคัพ 3 สมัย และลีกคัพ 4 สมัย ในช่วงที่ซูเนสส์ค้าแข้งลิเวอร์พูลครองความยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศและยุโรป
เขาได้ตำแหน่งกัปตันทีมในปี 1981 และกลายเป็นชายคนแรกที่คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ติดต่อกันถึง 3 สมัย
เอ็มลิน ฮิวจ์ส
เอ็มลิน ฮิวจ์ส อาจเป็นผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่เคยสวมเสื้อลิเวอร์พูลมา ฮิวจ์สเป็นกองหลังระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นกองหลังตัวกลางหรือฟูลแบ็ค และยังเป็นผู้เล่นระดับท็อปคลาสเมื่อถูกขอให้ลงเล่นในตำแหน่งกองกลาง
ฮิวจ์ส ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงในปี 1967 ถือเป็นการเซ็นสัญญาครั้งยิ่งใหญ่ที่สามารถเอาชนะทีมชั้นนำเกือบทุกทีมที่ต้องการตัวเขา
ฮิวจ์ส อาจจะไม่ใช่คนที่บรรดาเพื่อนร่วมทีมสนิมสนมด้วยเท่าไหร่นัก รวมไปถึงกัปตันทีมในเวลานั้นอย่าง ทอมมี่ สมิธ และตำแหน่งกัปตันของเขาได้มาด้วยวิธีที่ไม่ค่อยถูกต้อ ในการเจรจาต่อสัญญาในช่วงฤดูร้อนปี 1973 ฮิวจ์เรียกร้องให้แต่งตั้งเขาเป็นกัปตันทีม โดยขู่ว่าจะย้ายออกไปหากไม่ตอบสนองความต้องการของเขา
แม้ บิล แชงคลีย์ จะเป็นผู้จัดการทีมที่ไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร แต่ในครั้งนี้เขาก็ยอมลดละ เขาแต่งตั้งฮิวจ์เป็นกัปตันทีม และแต่งตั้งสมิธเป็นกัปตันทีมเช่นกัน ซึ่งก็คือขณะที่ฮิวจ์สนำทีมลงสนามและสวมปลอกแขน นักเตะรับคำสั่งจากสมิธ
อย่างไรก็ตามเรื่องการได้ปอกแขนกัปตันทีม ไม่สามารถที่จะพรากความสำเร็จที่ลิเวอร์พูลได้รับในช่วงที่ฮิวจ์สเป็นกัปตันทีม, แชมป์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ 1 สมัย และยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ 1 สมัย จากการลงสนาม 665 นัด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด
เจอร์ราร์ด ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในฐานะผู้เล่น เขาเติบโตมากับอคาเดมี่ของสโมสรลิเวอร์พูล เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับทีมชุดใหญ่ในปี 1998 ก่อนที่จะย้ายออกจาสโมสรในปี 2015
ตลอด 17 ปี กับสโมสรลิเวอร์พูล เขาเป็นหัวใจหลักของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ในยุคที่ “สตีวี่จี” ทัพหงส์แดงไม่ได้เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษเหมือนในอดีต ทว่าเขายังคงพาทีมไปสู่ความสำเร็จมากมาย ในฐานะกัปตันทีม เขาชูถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีกปี 2005, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ ปี 2005 และเอฟเอคัพปี 2006
นอกจากนี้ยังยิงประตูพาทีมผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตต่างๆมามากมาย ประตูในนัดชิงเอฟเอคัพที่ยิงใส่ เวสต์แฮม แาจจะเป็นลูกยิงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาของรายการ แม้ว่าเจอร์ราร์ดจะไม่สามารถนำทีมคว้าแชมป์ลีกในยุคของเขา แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่าจากเส้นทางค้าแข้งเขาสมควรได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในกัปตันทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรลิเวอร์พูลแบบไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
รอน เยตส์
นี่คือกัปตันทีมในยุคของ บิล แชงคลีย์ ที่เป็นจุดกำเนิดของความยิ่งใหญ่ของสโมสรในภายหลัง กองหลังร่างยักษ์ย้ายจาก ดันดี ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เขาได้รับความไว้วางใจจากปรมาจารย์ให้ทำหน้าที่นำทีมลงสนาม รอน เยตส์ เป็นกัปตันทีมที่รับใช้สโมสรอย่างยาวนานที่สุดคนหนึ่ง เขาพาทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่นหนึ่ง 2 สมัย ดิวิชั่นสอง และเอฟเอคัพ จากการลงเล่นทั้งหมด 454 นัด
แม้เขาจะไม่ได้มีถ้วยรางวัลมากมายหากเทียบกับคนอื่นๆ แต่เขาเป็นผู้นำของทีมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูลอย่างไม่ต้องสงสัย จากมาตรฐานของเขา มรกดจากยุคของเขาเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของสโมสรลิเวอร์พูลในเวลาต่อมา ดังนั้นสิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้นั้นประเมินค่าแทบไม่ได้เลย